ประกันชั้น 1

ประกันชั้น 1 กับเรื่องราวของค่าเสียหายส่วนแรก

0 Comments

เรียกได้ว่า เป็นแผนความคุ้มครองที่ใคร ๆ ต่างก็ให้ความสนใจกันมาเป็นเวลานาน สำหรับประกันชั้น 1 ที่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของประกันภัยรถยนต์ที่มอบความคุ้มครองได้ครอบคลุมสูงสุด และให้วงเงินคุ้มครองในจำนวนมากที่สุด เมื่อเทียบกับแผนความคุ้มครองรูปแบบอื่น

อย่างไรก็ตาม การทำประกันหรือทำข้อตกลงใด ๆ ทุกอย่างย่อมมีเงื่อนไขและข้อกำหนดของมันอยู่ อย่างเช่นเรื่องของ “ค่าเสียหายส่วนแรก” ที่บริษัทผู้ให้บริการประกันภัยหลาย ๆ เจ้า อาจไม่ได้เปิดเผยเงื่อนไขส่วนนี้ออกมาโดยตรงในตอนที่นำเสนอแผนความคุ้มครอง แต่สิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรทราบก่อนตัดสินใจเลือกประกันชั้น 1 ก็คือเรื่องของค่าเสียหายส่วนแรกนี่แหละ สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ลองมาอ่านบทความนี้กัน

ค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร?

สำหรับผู้ที่ซื้อประกันชั้น 1 คงจะเคยได้ยินหรือได้เห็นสิ่งที่เรียกว่าค่าเสียหายส่วนแรก กันมาบ้าง ซึ่งมันก็คือค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันจะต้องสำรองจ่ายไปก่อนในกรณีที่เกิดความเสียหาย หลังจากนั้นจึงมาเคลมเพื่อรับเงินชดเชยตามข้อกำหนดความคุ้มครองในภายหลัง โดยจะแบ่งออกมาอีกเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่

  • ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible

หรือที่เรียกกันว่า แบบสมัครใจ เป็นค่าเสียหายส่วนแรก ที่เหมือนเป็น “ตัวเลือกเสริม” ให้สามารถเลือกเองได้ว่า จะรับ หรือไม่รับค่าเสียหายส่วนแรกในจำนวนที่กำหนด ซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 1,000-5,000 บาท (ขึ้นอยู่กับการทำข้อตกลงกับบริษัทประกันภัย) ในกรณีที่ผู้เอาประกันเลือกประกันชั้น 1 แบบที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (มี deductible) ก็จะได้ประกันชั้น 1 ที่มีราคาเบี้ยประกันถูกลง แต่มีข้อแม้คือหากเกิดอุบัติเหตุรถชน หรือเกิดความเสียหายกับรถยนต์คันเอาประกัน และเป็นฝ่ายผิด ในแต่ละครั้ง เจ้าของรถยนต์คันเอาประกันต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเองก่อนนำรถออกจากอู่ซ่อม เป็นจำนวนเงินเท่ากับค่า deductible ที่หักลดไว้ในตอนที่ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 นั่นเอง

  • ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Excess

หรือที่เรียกกันว่า “ค่าเสียหายแบบตามเงื่อนไข” เป็นค่าเสียหายส่วนแรก ที่เรียกว่า “บังคับ” ให้ทางผู้เอาประกันต้องจ่ายเองไปก่อน แม้ว่าจะชำระค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไปแล้วเรียบร้อยก็ตาม ซึ่งการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกในรูปแบบนี้จะกระทำในกรณีที่รถยนต์คันเอาประกันเกิดความเสียหายโดยไม่ได้เกิดจากการที่นำไปขับชน หรือชนแล้วไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ เช่นการขับชนต้นไม้, พบรอยขีดข่วนโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือกรณีอื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันชั้น 1

หากคุณเป็นผู้ขับขี่ยานยนต์อีกคนหนึ่งที่กำลังมองหาความคุ้มครองที่น่าสนใจจากประกันชั้น 1 ขอแนะนำว่าให้เลือกแผนความคุ้มครองดี ๆ พร้อมทั้งพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างละเอียด เพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวคุณเอง

Related Posts

Car Tire

รู้ได้อย่างไรว่าจะต้องเปลี่ยนยางรถยนต์

0 Comments

ในปัจจุบันนี้เรื่องของยางรถยนต์นั้นต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากเพราะว่ายางรถยนต์จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เราได้ขับเคลื่อนรถยนต์ได้เป็นอย่างดีเลย เราจึงควรที่จะต้องรู้จักที่จะให้ความสนใจและให้ความสำคัญมากๆกับเรื่องของรถยนต์ด้วยจะยิ่งเป็นเรื่องที่ดี                 เพราะเรื่องของรถยนต์นั้นต้องบอกเลยว่าเราจะต้องดูแลในเรื่องของยางให้ดีที่สุดเพราะว่ายางรถยนต์นั้นจะทำให้เราได้มีความปลอดภัยต่อการนั่งรถยนต์ด้วย ทุกๆอย่างในเรื่องของการนั่งรถยนต์นั้นเราเองก็จะต้องหมั่นที่จะตรวจสอบยางรถยนต์ด้วยว่าน็อตนั้นหลวมไหมเราจะต้องรู้จักที่จะสังเกตด้วยว่ามีเสียงอะไรแปลกปลอมที่ล้อรถหรือไม่                 เพราะถ้าหากเรารู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมแล้วนั้นเราก็จะต้องรีบให้ร้านซ่อมรถนั้นเช็คดูว่ามีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้นกับเราเองอย่างยิ่ง เราจึงควรที่จะต้องรู้จักที่จะอย่ามองข้ามไปเลยในเรื่องเล็กๆน้อยๆเพราะว่าทุกอย่างนี้เป็นเรื่องที่เราจะต้องใส่ใจจะได้ไม่เกิดอันตรายหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเราด้วย                 เรื่องของรถยนต์นั้นในเรื่องของยางเราจึงควรที่จะต้องให้ความสนใจมากๆเพราะยิ่งเราสนใจแล้วก็จะยิ่งทำให้เราไปไหนมาไหนได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น…

Car Care

 3 วิธีดูแลรถยนต์ที่คุณไม่เคยรู้

0 Comments

รถยนต์ถือเป็นสินทรัพย์อีกอย่างหนึ่งที่เป็นทรัพย์สินที่มีค่าของใครหลายๆ คนเนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาสูงและเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปทำงานและการใช้ชีวิตของใครหลายๆ คนแต่จะมีกี่คนที่รู้ว่าเมื่อมีรถแล้วควรจะต้องดูแลอย่างไรเพื่อรักษาสภาพรถให้เหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลาและสามารถใช้งานได้ในระยะยาววันนี้เราจึงขอมาแนะนำ 3 วิธีการดูแลรถยนต์ที่คุณอาจจะไม่รู้สึกจะมีอะไรบ้างไปเริ่มกันที่ข้อแรกเลยค่ะ หมั่นเช็คลมยางอยู่เสมอสิ่งแรกที่หลายๆคนมักละเลยในการใช้รถนั่นก็คือการตรวจเช็คลมยางหรือการเติมลมยางนั้นเองค่ะอะไรคนอาจจะคิดว่าการขับรถหรือวิ่งในโพสในเมืองนั้น ไม่จำเป็นจะต้องเติมลมยางหรือเช็คลมยางบ่อยเพราะถนนค่อนข้างเรียบและ น่าจะไม่ทำให้ล้อเกิดการรั่วซึมง่ายๆแต่จริงๆแล้วการตรวจเช็คลมยางเป็นประจำและสม่ำเสมอและจะช่วยให้คุณสามารถดูแลสุขภาพของรถยนต์ได้ดีมากขึ้นเพราะหากเกิดปัญหาอะไรกับยางไม่ว่าเป็นยางรั่วซึมหรือยังแข็งเกินไปคุณก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันทีโดยโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุด้วยนั่นเองค่ะ  เติมน้ำมันให้ตรงรุ่น หลายๆคนคงทราบกันดีว่ารถแต่ละประเทศและเครื่องยนต์แต่ละประเภทนั้นก็เหมาะกับการใช้งานน้ำมันหรือเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันออกไปยังรถที่มีอายุนานมากกว่า 10…

แบตเตอรี่รถยนต์

การดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์

0 Comments

สิ่งของต่างๆ มักจะมีระยะเวลาการใช้งาน เมื่อใช้งานได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว จะทำให้ขของสิ่งนั้นเสื่อมสมรรถภาพ หรือใช้งานไม่ได้ในที่สุด ซึ่งสิ่งของที่เราจะเห็นได้ชัดและพบปัญหาอยู่บ่อยครั้งก็คงจะเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งมีอายุการใช้งานที่จำกัด แต่โดยทั่วไปแล้วนั้นอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 24 เดือน…